Outbound Marketing คืออะไร

     ก่อนหน้านี้ผมได้พูดว่าหลังจากที่เราทำการเปิดร้านออนไลน์ไปแล้วเราควรต้องทำการตลาดด้วย เพื่อให้เนื้อหาของสินค้าและบริการของเราเข้าถึงลูกค้า โดยที่ผมพูดถึงคือ การตลาดแบบ Inbound Marketing เมื่อมี In ก็ต้องมี Out คราวนี้เราจะมาพูดถึง Outbound Marketing กันบ้างนะครับ Inbound Marketing คือ การทำตลาดโดยเน้นพัฒนาช่องทางการขายของเราให้มีคุณภาพ โดยการเขียนBlog หรือเนื้อหาที่มีคุณภาพ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาเรา ส่วน Outbound Marketing ก็ตรงข้ามกันกับ Inbound Marketing โดยจะทำตลาดเพื่อให้ลูกค้ารู้จักเราเลยในทันที โดยผลักดันเนื้อหาของสินค้าหรือบริการผ่านสื่อต่างๆที่เราต้องการให้ลูกค้าเห็น ไม่ต้องรอให้ลูกค้าเข้ามาเห็นเนื้อหาที่เราเขียน จึงเปรียบได้ว่าเป็นการตลาดในรูปแบบผลัก

การตลาดแบบผัก ?  5555+ คนละผักครับท่าน ผลักครับไม่ใช่ผัก

Outbound Marketing เป็นการส่งสารออกไปให้คนได้เห็นจำนวนมากๆ โดยเครื่องมือเหล่านี้ เช่น Facebook Ad, Google Adword, โฆษณาตามทีวี หรือโฆษณาใน Youtube, ป้ายโฆษณาต่างๆ, SMS,ใบปลิว, ฯลฯ จะเห็นได้ว่าโฆษณาเหล่านี้บางครั้งจะขึ้นมาขัดจังหวะระหว่างที่เรากำลังพักผ่อนหรือทำกิจกรรมอยู่ โดยไม่สนใจว่าเราอยากจะรับรู้โฆษณาเหล่านั้นหรือไม่ เช่น กำลังดูวีดีโอผ่าน Youtube ก็มีโฆษณามาขั้นระหว่างดู หรือนอนฟังเพลงอยู่ก็มี SMS โฆษณาส่งมายังโทรศัพท์มือถือ 

ดู Youtube สักพักมีโฆษณามาขั้นนั่นแหละลักษณะของ Outbound Marketing

การทำตลาดแบบ Outbound เป็นการตลาดโดยเน้นการโปรโมตเพื่อให้เข้าถึงคนจำนวนมากได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์หรือสินค้าของเราได้ในทันที โดยไม่ต้องเสียเวลามาทำเนื้อหาหรือทำคีย์เวิร์ด ก็ทำให้คนจำนวนมากเข้าถึงได้ แต่การทำตลาดแบบ Outbound ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพื่อโฆษณาไปตามสื่อต่างๆ ยิ่งโฆษณามากค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงมากขึ้น

ยิ่งโฆษณามากยิ่งเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

จะเห็นได้ว่าการตลาดแบบ Inbound และ Outbound มีทิศทางการทำงานตรงกันข้ามกัน และใช้เครื่องมือในการทำต่างกันมาก หลักๆเลยคือค่าใช้จ่าย Inbound แถบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น ต่างกับ Outbound ค่าใช้จ่ายมาก และยิ่งมากขึ้นหากต้องการโปรโมตเป็นเวลานาน แต่การทำงานของ Outbound ลูกค้าจะเข้าถึงและรู้จักสินค้าและบริการของเราได้รวดเร็ว และเป็นจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ ต่างกับ Inbound ที่ต้องคอยทำเนื้อหาที่ดีมีคุณภาพ และรอให้คนที่สนใจหรือมีความต้องการเกี่ยวกับสินหรือบริการนั้นเข้ามาหาอีกที

ลักษณะการทำงานของ Inbound และ Outbond เปรียบได้กับ แม่เหล็ก กับ โทรโข่ง

หากจะถามว่าเปิดร้านออนไลน์ควรจะทำการตลาดแบบ Inbound หรือ Outbound ดีกว่ากัน ผมเพียงได้แต่บอกว่าการตลาดทั้ง 2 แบบ มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ไม่ใช่ว่า Outbound เสียเงินแล้วไม่ดี แต่เสียเงินแล้วเราได้อะไรจากมันบ้างต่างหากที่สำคัญ ดังนั้นหากเปิดร้านออนไลน์แล้ว การทำ Inbound Marketing และ Outbound Marketing ต่างก็มีความสำคัญ ถ้าหากเป็นไปได้ ควรทำควบคู่กันไปทั้งคู่ เราทำเนื้อหาดีๆเพื่อดึงดูดผู้ที่สนใจสินค้าและบริการของเรา จากนั้นก็ทำการลงโฆษณาบ้างเพื่อให้ผู้คนภายนอกที่อาจเข้าถึงเนื้อหาของเราได้ยาก ได้รู้จักสินค้าและบริการของเรา โดยการควบคุมค่าใช้จ่ายของการโฆษณาให้อยู่ในระดับที่เรารับได้ไม่ทำให้ขาดทุน ต่อไประยะยาวหากมีผู้ที่สนใจสินค้าและบริการเรามากพอแล้ว เราก็ค่อยลดโฆษณาลง เพราะ การตลาดแบบ Inbound จะช่วยให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือและมั่นใจในสินค้าและบริการของเรา ลูกค้าจะทำการบอกต่อและชักชวนผู้ที่สนใจสินค้าและบริการเข้ามาซื้อสินค้าและบริการของเรา เป็นการโฆษณาสินค้าให้กับเราได้อีกทางนึงดังนั้นการทำการตลาดทั้งสองแบบควบคู่กันไปจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สกุณี เปิดร้านออนไลน์ เพิ่มยอดขายง่ายๆ เพิ่มรายได้โดนๆ